Under development

รีวิว OPPO Watch X2 ระบบฉลาด อักษรสวย แบตอึด
ผมย้ายจาก iPhone มาใช้ Android เป็นเครื่องหลักในรอบ 10 ปี โดยเลือก OPPO Find N5 คู่กับ OPPO Watch X2 ผมเลือกคู่นี้เพราะ Find N5 คือที่สุดของจอพับที่บางและมีฟีเจอร์เชื่อมต่อกับ macOS ด้วย ในขณะที่ Watch X2 ขับเคลื่อนด้วย Color OS Watch 7.0 + Wear OS 5.0 ทำให้ได้ประสบการณ์ที่ครบถ้วน คล้ายกับการจับคู่ iPhone กับ Apple Watch และก็รู้สึกว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

OPPO Watch X2
13,999 บาท
สมาร์ทวอทช์ที่ฉลาดและแบตอึด
เป็นที่รู้กันว่าภาพรวมสมาร์ทวอทช์จะมี 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มเน้นแบตอึดที่ฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ได้เนี๊ยบมากนัก กับกลุ่มที่เน้นความฉลาดที่ฟีเจอร์ละเอียดลึก โดยเฉลี่ยแล้วพวกแบตอึดมักอยู่ได้ 7-14 วัน และพวกที่เน้นฉลาดจะอยู่ได้ประมาณ 1 วันสำหรับการใช้งานจริง แต่ OPPO Watch X2 เป็นความลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเป็นรุ่นที่ฉลาดแต่ใช้จริงแล้วแบตอยู่ได้เกือบ 5 วัน และยังมีโหมดประหยัดแบตที่คล้ายโหมดปรกติ ระบบแจ้งเตือนมาครบ การตรวจวัดสุขภาพก็ทำได้ เพียงแต่เค้าจะลดความถี่ในการประมวลผลบางอย่าง และตัดทอนฟีเจอร์ที่ไม่เน้นมาก และจะทำให้แบตอยู่ได้นานขึ้นอีก 2-3 วันในการใช้งานจริง

ซึ่ง OPPO Watch X2 ทำแบบนี้ได้เพราะใช้ระบบ Hybrid OS โดยมี Color OS Watch 7.0 + Wear OS 5.0 ในการทำงานแบบฉลาดสุดๆ จะใช้ Wear OS แต่พอเข้าโหมดประหยัดแบตจะใช้ความสามารถของ Color OS Watch

แม้ว่าสมาร์ทวอทช์แต่ละตัวจะโฆษณาว่ามีฟีเจอร์ต่างๆ คล้ายกัน แต่ถ้าได้ใช้งานจริงจะพบว่ามันมีความต่างเยอะเลยสำหรับแต่ละค่าย เช่น
- การแสดงผล emoji ที่รุ่นนี้แสดงผลได้แทบทั้งหมด ต่างจากสมาร์ทวอทช์ส่วนใหญ่ที่แสดงผล emoji ไม่ได้ หรือแสดงได้ไม่ดีนัก
- การแสดงผลภาษาไทย ซึ่งรุ่นนี้ก็มี font ไทยที่สวย การเว้นช่องไฟ เว้นบรรทัดได้ดี ดูแล้วไม่ขัดสายตา
- ความแม่นยำและความละเอียดในการตรวจจับวัดค่าด้านสุขภาพและออกกำลังกาย จากที่ได้ลองใช้จริง ผมคิดว่ารุ่นนี้ตรวจจับได้แม่นมาก บอกได้แม้กระทั่งความเสี่ยงในการป่วย

การวัดค่าในแง่สุขภาพที่ผมสนใจเป็นพิเศษคือ ECG, สุขภาพหลอดเลือด, การหายใจผิดปรกติตอนนอน และแม้ว่าผมจะไม่ใช่สายออกกำลังกาย แต่ความฉลาดของรุ่นนี้คือการเข้าสู่โหมดออกกำลังกายอัตโนมัติ หมายถึงหลายรุ่นสามารถตรวจวัดค่าการออกกำลังกายได้ แต่จะต้องเลือกโหมดเอง และต้องกดเริ่มเอง แต่ OPPO Watch X2 เมื่อตรวจจับได้ว่ามีการเดินหรือออกกำลังกายตามที่เราตั้งค่า มันก็จะเข้าสู่โหมดออกกำลังกายและบันทึกค่าให้ทันที
การใช้งานประจำวัน
สิ่งที่ผมซีเรียสมากคือระบบแจ้งเตือนจะต้องมาไวและมาครบ ซึ่งรุ่นนี้ทำได้เร็วในระดับที่น่าพอใจ และการตอบโต้การแชทก็สามารถทำได้ทั้งการพิมพ์ผ่านแป้นบนจอ, การพูดแล้วแปลงเป็นอักษร



และยังมีตัวควบคุมการดูคลิปสั้นด้วย ฟังดูเป็นฟีเจอร์ที่แปลกดี ซึ่งเท่าที่ลองกับ TikTok, YouTube Short ก็ใช้งานได้ดีครับ และเหมาะกับการที่เราวางมือถือตั้งไว้บนโต๊ะหรือต่อออกจอ แล้วให้ OPPO Watch X2 เป็นรีโมทในการควบคุมคลิปสั้น นอกจากนี้การลั่นชัตเตอร์ผ่าน OPPO Watch X2 ยังสามารถพรีวิวภาพให้ดูได้ด้วย ซึ่งเหมาะมากกับการเป็น Solo content creator

และที่ผมใช้บ่อยมากคือ Google Pay โดยเราสามารถเพิ่มบัตรเครดิตเข้าไป จากนั้นก็ทำการแตะจ่ายที่เครื่องได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถแสดงแผนที่และนำทางด้วย Google Maps ได้ด้วย

นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังชาร์จเร็วมาก ถ้าชาร์จทุกครั้งที่อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง แบตก็แทบจะเป็นอมตะแล้วครับ
ความเห็นเพิ่มเติม
เชื่อว่าภาพจำของ Wear OS ของหลายคนคือแบตไม่อึดเต็มที่ก็อยู่ได้ 3 วัน แต่ OPPO ทำให้เห็นแล้วว่ามันอยู่นานกว่านั้นได้ เพราะผมใช้งานจริงเปิดแทบทุกฟีเจอร์ยังอยู่ได้เกือบ 5 วันเลย ผมคิดว่าถ้าจะใช้ Android และต้องการจับคู่กับนาฬิกาที่ฉลาดที่สุด ผมคิดว่า OPPO Watch X2 นี่แหละที่ใช่