รีวิว BlueSpice Dinning Room @ Grande Centre Point Sukhumvit 55บุฟเฟ่ต์ข้าวต้มโต้รุ่ง

  • Bac
  • 04/04/2017
5dm38343 1038x584 1

ครั้งก่อนเราได้มีโอกาสไปรีวิวร้าน BlueSpice & Herbs กันมาแล้ว แต่คราวนี้เป็น BlueSpice Dinning Room ที่เป็นร้านข้าวต้มบุฟเฟ่ต์แบบไม่จำกัดเวลา เปิดให้บริการ 17:00-02:00 น. ร้านตั้งอยู่ในโรงแรม Grande Centre Point Sukhumvit 55 และไม่น่าเชื่อว่าบรรยากาศนั่งสบายติดแอร์แบบนี้ อาหารแบบนี้และไม่จำกัดเวลาจะมีราคาแค่ 390 บาท

เมื่อเดินเข้ามาในตัวโรงแรมแล้วก็จะพบกับร้าน BlueSpice Dinning Room ทันทีเรียกได้ว่าหาง่ายมากๆ และเมื่อเดินเข้ามาภายในตัวร้านก็จะเห็นห้องอาหารที่ขนาดใหญ่ไม่อึดอัด และบรรยากาศแบบนี้ก็ทำให้การนั่งกินข้าวต้มเป็นเรื่องที่อิ่มเอมกว่าการนั่งร้านข้างทาง ที่ต้องผจญภัยกับควันรถและความร้อน

เมนูเด็ดที่นี่มีอยู่หลายอย่าง แต่ขอเริ่มต้นด้วยของยำก่อนละกันครับ เค้ามีทั้งแบบที่ปรุงเสร็จพร้อมตัก และแบบที่เป็นส่วนผสมให้เราปรุงเอง แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อร่อยเพราะน้ำยำเค้าทำให้แล้วเสร็จสรรพเพียงแค่ตักราดเท่านั้น รสชาติที่ได้ก็ค่อนข้างกลมกล่อมซึ่งถือเป็นจุดเด่นของร้านอาหารในเครือ “สีฟ้า” อยู่แล้วด้วย ในแบบที่ไม่ได้เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หรือหวานแบบโดด แต่กลมกล่อมไปหมด

ถัดมาก็เป็นกลุ่มของครัวร้อนโดยมีเมนูหลักคือโจ๊กและก๋วยจั๊บ ซึ่งเครื่องต่างๆ ค่อนข้างดีแถมยังมีไข่เยี่ยวม้าและไข่ลวกให้หยิบได้ตามสะดวกอีกด้วย แต่รสชาติออกไปทางจืด อาจไม่ถูกจริตคนที่เคยชินกับร้านอื่นๆ ที่จัดจ้านกว่านี้

นอกจากนี้เรายังมารถเลือกผักต่างๆ แล้วไปส่งให้พ่อครัวเพื่อทำเป็นผัดผักสไตล์ร้านข้าวต้ม ที่มีให้เลือกได้ว่าจะผัดใส่กับอะไรบ้างอย่างเช่น ผัดผักหมูกรอบ รวมถึงเห็ดหลากชนิดที่สามารถทำเป็นเห็ดทอดกรอบได้ด้วย

ในกลุ่มอาหารที่ปรุงเสร็จพร้อมตักเองได้ก็มีเด่นๆ อยู่หลายอย่าง เช่น ผัดหนำเลี้ยบ ที่รสและกลิ่นทำออกมาได้น่าประทับใจและหาแบบนี้ได้ยากมาก รวมถึงขาหมูที่เค้าบอกว่าเป็นจุดขายของที่นี่ เพราะเป็นขาหมูที่ไม่เลี่ยนแต่ยังคงมีความเป็นขาหมูที่หนึบหนับ แบบที่หลายคนตักแล้วตักอีก

ในเมื่อชูจุดขายด้านความเป็นข้าวต้มโต้รุ่ง ก็ต้องมีข้าวต้มที่ดีพอจะเป็นตัวเชิดหน้าชูตา ซึ่งข้าวต้มของที่นี่มีให้เลือก 3 แบบคือ ข้าวต้ม ข้าวต้มข้าวกล้อง และข้าวต้มเผือก

ส่วนน้ำและของหวานก็มีทั้งลอดช่อง รากบัว น้ำแข็งไส ผลไม้ ไอศกรีม ขนมปัง สังขยา แพนเค๊ก และอีกหลายสิ่ง

บทสรุป

ครั้งแรกที่ได้ยินว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ข้าวต้มโต้รุ่ง ผมก็ไม่คิดว่า BlueSpice Dinning Room จะมีลักษณะแบบนี้ เพราะมันดีกว่าที่คิดไว้มาก สถานที่ก็สะดวกสบาย อาหารก็อร่อยหลายเมนู ราคาก็ไม่แพง แถมยังเปิดตั้งแต่ 17:00-02.00 น. อีกด้วย และการที่มีพิกัดอยู่แถวทองหล่อก็น่าจะทำให้คนเยอะกว่านี้ แต่วันที่ไปก็มีลูกค้าไม่ถึงกับเต็มร้าน อาจเป็นเพราะคนยังไม่ค่อยรู้จักก็เป็นได้ …สุดท้ายคงบอกได้แค่ว่านี่เป็นอีกร้านที่สุดคุ้ม ราคาไม่แพง นั่งสบาย นั่งได้ยาวๆ

Share this post

Bac
ผมจำความได้ว่าตอนเด็กจะเห็นป๊ากินอาหารจืดมาก รวมไปถึงอากงอาม่าที่แทบไม่ปรุงอะไรเลย โดยเน้นความหอมจากวัตถุดิบและกรรมวิธีการทำ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ง่ายนัก และไม่ใช่รสที่หาได้จากร้านทั่วไป เรียกได้ว่าผมไม่ได้เจอรสแบบนี้นานมาก จนกระทั่งได้ลองที่ร้าน Ho Kitchen Rama3 Est.2002 แล้วภาพในอดีตตอนยังเป็นเด็กมันย้อนกลับมา มันทำให้ผมเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวทันทีที่นึกถึงวันที่ผมยังเด็กและอากงอาม่ายังอยู่ครบ …นี่มันไม่ใช่แค่อาหาร แต่มันคือความทรงจำ อาหารจีนที่กินแล้วรู้สึกดี อย่างที่รู้กันว่าคนจีนเป็นชนชาติที่ให้ความสำคัญกับความเชื่อเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะของกินที่มีความหมายดี และต้องเป็นวัตถุดิบที่ผ่านการปรุงอย่างดีเพื่อให้ดีต่อสุขภาพด้วย โดยเซ็ตที่เรามารีวิวในครั้งนี้เหมาะสำหรับ 10 คน ราคา 8,000 บาท หรือหารตกคนละ 800 บาท เมื่อดูที่เมนูและปริมาณ สำหรับผมรู้สึกว่าไม่เสียดายเงินเลยครับ โดยเฉพาะการพาครอบครัวที่เรารักมานั่งโต๊ะพร้อมหน้ากัน ใช้เวลาความสุขร่วมกัน แค่นี้ก็คุ้มแล้ว ก่อนที่จะเข้าเซ็ต 8,000 บาท อยากแนะนำโปรโมชั่นติ่มซำ 2 แถม 1 โดยเมนูที่เราได้ลองคือ ขนมจีบกุ้ง, ขนมจีบปู, ฮะเก๋า, ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งกรอบ, ฟองเต้าหู้กุ้งทอด, ซาลาเปาไส้หมูแดง ซึ่งทุกเมนูให้เนื้อมาเน้นๆ กุ้งเป็นกุ้ง ขนมจีบก็เนื้อแน่นเด้งกินง่ายเต็มปากเต็มคำ ส่วนซาลาเปาไส้หมูแดงก็ให้ไส้มาเยอะ รสชาติเบาๆ ไม่จัด ก๋วยเตี๋ยวหลอดและฟองเต้าหู้ทอด ก็มีความกรุบกรอบเล็กๆ พอให้มีมิติ […]
บังเอิญว่า kabukichō 77 เปิดสาขาใหม่ใกล้ 5 แยกวัชรพล อยู่ตรงข้ามออฟฟิศเราพอดี แบบนี้ไม่ให้ลองก็คงไม่ได้ ร้านนี้มีบุฟเฟต์ 2 ราคาคือ 713 บาท และ 1,189 บาท Net ยกเว้นต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ต้องจ่ายเพิ่ม มีให้เลือก 2 ราคา แพ็คเกจอาหารที่มีให้เลือกคือ 666+ บาท ( 713 บาท ) และ 1,111+ บาท ( 1,189 บาท ) โดยทั้ง 2 ราคาจะรวมเครื่องดื่มและของหวานทั้งหมด ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชุด 666+ จะมีชาบูเนื้อพรีเมี่ยม เนื้อ US เนื้อ AUS รวมถึงสารพัดซาซิมิ และของดองซอสทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น แซลมอนดอง กุ้งดอง ไข่ดอง และยังมีกลุ่มของเทปันยากิน และเมนูปิ้งย่างเสียบไม้ ส่วนชุด […]
ในช่วงที่ไก่ทอดเกาหลีทยอยมาเปิดสาขาในไทย แต่จุดที่ทำให้ Pelicana ดึงดูดทีมงานเราก็เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของไก่ทอดเกาหลีอันโด่งดัง โดดเด่นด้วยซอสราว 10 รสให้เลือก และสิ่งที่ห้ามพลาดคือชีสบอลที่นำเข้า และข้าวมันไก่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อขายในประเทศไทยโดยเฉพาะ หลากหลายเมนูชวนให้ลอง เมนูส่วนใหญ่ของ Pelicana จะเป็นไก่ทอดโดยจุดต่างคือซอสที่แตกต่างกัน เช่น ซอสซิกเนเจอร์, ซอสน้ำผึ้ง, ซอสสโมคกี้ฮอต, ซอสกังจอง, ซอสเผ็ด, ซอสสโมคกี้มาโย, ซอสเผ็ดมาโย, ซอสกระเทียม, ซอสถั่วเหลือง, และโรยผงชีส นอกจากซอสและการปรุงแต่ละแบบแล้ว ยังสามารถเลือกได้อีกว่าจะเอาปีก, ครึ่งตัว, ทั้งตัว ซึ่งถ้าเราสั่งไก่ทอดเราจะได้ไชเท้าดองไม่อั้นด้วย แก้เลี่ยนได้ดีมาก และยังมีของกินเล่นอื่นๆ เช่น ชีสบอล, มันหวานชีสสติ๊ก, แร๊พไก่กรอบ, เบอร์เกอร์ไก่กรอบ และอื่นๆ อีก เราได้ลองไก่กันหลายรสเลยครับ สิ่งที่เราชอบคือแต่ละรสจะมีความแตกต่างกันชัดเจน คาแรกเตอร์เด่น และทุกตัวจะมีความหอมเฉพาะอยู่ เช่น ซอสน้ำผึ้งก็จะหวานๆ กินง่ายๆ, โรยผงชีสก็จะหอมนวล เนื้อนุ่ม แป้งกรอบ ลงตัวมาก แต่ที่อยากแนะนำว่าต้องลองคือไก่ทอดออริจินอลซอสซิกเนเจอร์ เพราะเนื้อสัมผัสมันจะแตกต่างอย่างชัดเจนแบบหาจากร้านอื่นไม่ได้ หนังไก่จะไม่ได้ชุบแป้งกรอบหนาเหมือนตัวอื่น แต่มีความกรอบนอกนุ่มใน ถ้าอยากได้อะไรที่แปลกกว่าไก่ทอด แต่อยากกินไก่ทอด […]