รีวิว ไดกง ร้านอาหารญี่ปุ่นอารมณ์ดีย่านรามคำแหง

  • Bac
  • 21/04/2016
Y38s4ecb fpoqnd0u daikon 005 1

อาจเรียกได้ว่าผมเป็นผู้บุกเบิกร้านอาหารญี่ปุ่นไดกงให้เป็นที่รู้จักของโลกออนไลน์ก็ว่าได้ ถึงขั้นว่าช่วงต้นปี 2014 ถ้าค้นหาคำว่า ไดกง ก็จะเห็นเว็บผมเป็นอันดับแรก และหลังจากนั้นผมก็ยกให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารญี่ปุ่นในดวงใจจนถึงปัจจุบัน

ย้อนไปเมื่อปี 2014 สารภาพกันตามตรงว่าตอนนั้นผมไปทำธุระแถวแยกมิสทีน เลยคิดว่าลองเสี่ยงดวงกับร้านนี้ดู ซึ่งผมกับเพื่อนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับร้านอาหารญี่ปุ่น no name แบบนี้ แต่การเสี่ยงดวงครั้งนั้นมันเหมือนกับการเปิดโลกใหม่ ที่ทำให้ผมได้พบกับร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคาไม่แพงแต่คุณภาพดีกว่าร้านดังในห้างบางแห่งซะอีก

สาขาร้านไดกง อาหารญี่ปุ่น

กลับมาอีกครั้งในปี 2016 ก็พบว่าร้านไดกงได้เติบโตแตกกิ่งก้านสาขาออกไปหลายร้าน แต่ร้านที่เป็นแบบฉบับดั้งเดิมของ “พี่ยู” มีเพียง 2 สาขาเท่านั้น ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยมิสทีนรามคำแหง และ เคหะร่มเกล้า ( อยู่ใกล้บิ๊กซี เคหะร่มเกล้า ) หรือติดต่อได้ที่เฟซบุ๊คนี้

อัพเดทปี 2017 เพิ่มสาขาลาดกระบังอีกที่ครับ

คุณภาพประทับใจ

สาเหตุที่ผมเจาะจงเลือกสาขาที่พี่ยูดูแล ก็เพราะร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเฉพาะปลาที่เป็นของสด ถ้ามีกรรมวิธีการจัดเก็บหรือเลือกวัตถุดิบไม่ดี ก็จะส่งผลกับรสสัมผัสอย่างชัดเจน และจุดเด่นอีกอย่างที่หาตัวจับได้ยากก็คือพี่ยูเป็นเชฟที่เบิร์นอาหารได้เก่งมากๆ สามารถเรียกกลิ่นความหอมออกมาได้ดีแบบที่ไม่แพ้ร้านเกรด Premium เลย

เริ่มกันที่แซลมอน เมนูยอดนิยมที่ทั้งนักชิมมือใหม่และรุ่นใหญ่ก็ชื่นชอบ ขนาดชิ้นของแซลมอนค่อนข้างหนาเต็มปากเต็มคำ เนื้อแน่น ไม่เลี่ยน กินได้เรื่อยๆ ( ถ้าไม่ท้องแตกก่อน )

ทูน่าในครั้งนี้ทำได้ดีกว่าเมื่อครั้งปี 2014 ซะอีก ตัวเนื้อมีความหนึบหนับสู้ฟันอะไรทำนองนั้น …อ่อ ที่สำคัญคือวาซาบิที่นี่มีความเผ็ด อย่าเผลอใส่เยอะล่ะ ส่วนน้ำซอสโชยุก็ไม่ใช่ว่าซื้อจากห้างแล้วเอามาตั้งบนโต๊ะ แต่มีการนำมาปรุงต่อให้กลมกล่อมและไม่เค็มบาดคอเหมือนของเดิมๆ

หอยเชลของที่นี่จัดเป็นอีกเมนูที่ผมชอบ เพราะมันมีความเป็นหอยเชลที่หาได้ไม่ง่ายจากร้านในลักษณะนี้ …มีความหวาน ความนุ่มหนึบ มีกลิ่นเฉพาะตัวแบบที่กัดลงไปแล้วสัมผัสได้ว่านี่แหละคือหอยเชล! ยิ่งเวลาที่คีบลงไปสัมผัสกับโชยุนี่มันใช่มากๆ

ตอนนี้เราเริ่มขยับจากซาซิมิมาเป็นแนวซูชิแทนนะครับ ซึ่งที่จริงแล้วเมนูพวกนี้จะเสิร์ฟป็นคู่ แต่ผมก็ยุให้พี่เค้าลองทำเซ็ตนี้ออกมาขายเผื่อว่าใครอยากลองนั่นนิดนี่หน่อย

ขอเริ่มจากฟัวกราหรือตับห่านที่แม้ว่าชิ้นจะไม่หนานุ่มเท่ากับร้านเกรด Premium แต่ก็ยังคงมีความหอมและนุ่มแบบที่ไม่แข็งกระด้างและไม่เลี่ยน

ปรกติแล้วผมไม่สั่งทูน่าสไปซี่เพราะมันไม่สไปซี่แบบชื่อ ต่างจากของไดกงที่เผ็ดร้อนปนเปรี้ยวนิดๆ ทำเอาผมนึกถึงซอส Tabasco เลย …ถ้าเป็นคนที่ชอบรสจัดๆ น่าจะถูกใจเมนูนี้

แซลมอน อาบูริ ( salmon aburi ) หรือเรียกกันบ้านๆ ว่า burn เพราะใช้กระป๋องแก๊สพ่นไฟให้ด้านนอกสุก ในขณะที่ด้านในยังมีความนุ่มเหมือนปลาดิบอยู่ และอย่างที่ได้เกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้นว่าการ burn จัดเป็นจุดเด่นของร้านนี้ ทำให้ได้กลิ่นความหอม ผสมกับความนุ่มของแซลมอน ตัดกับรสเปรี้ยวนิดๆ จากซอสพอนซึ

การจับคู่ระหว่างไข่แซลมอน ( ikura ) กับแซลมอนก็เป็นอีกเมนูที่หลายคนชอบ ด้วยความนุ่มแน่นในแบบฉบับของปลาแซลมอน ผสมกับความมันและเค็มนิดๆ ของไข่แซลมอน โดยเฉพาะเวลาไข่ค่อยๆ แตกในปลาทีละอันนี่มันเป็นช่วงเวลาที่เพลินมากๆ

ถ้าเมนูเมื่อกี้ดูธรรมดาเกินไปก็ขอแนะนำให้เป็นแบบพันด้วยสาหร่าย และเปลี่ยนเป็นเนงิ แซลมอน ซึ่งจะให้ความหอมมากกว่าเดิม …แนะนำว่าไม่ต้องใส่ซอสโชยุเยอะ เพราะไข่แซลมอนมีความเค็มอยู่แล้ว

ซูชิอื่นๆ มีทั้งแบบ simple ที่หาได้ตามร้านทั่วไป อย่างเช่น แซลมอน, ทูน่า, หนวดปลาหมึก และที่ advance ขึ้นมานิดนึงแบบที่หาได้ยากจากร้านแนวนี้เช่นปลาตาเดียว ( engawa ) หรือฮามาจิ

ถ้าถามหาเมนูที่เป็น signature ของร้านผมยกให้เมนูนี้ “ท้องแซลมอน ซูชิ อาบูริ” ซึ่งเหมือนกับแซลมอน ซูชิ อาบูริ แต่การเลือกใช้เนื้อส่วนท้องที่มีความมันมากกว่า บวกกับการ burn ที่พอดิบพอดี ทำให้ได้ความหอม นุ่ม กลมกล่อมมากๆ …ที่สำคัญคือเมนูนี้มีจำกัดด้วย เพราะต้องเลือกใช้เนื้อส่วนท้องเท่านั้น เมนูนี้แทบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม เรามีหน้าที่แค่คีบเข้าปากเท่านั้นเพราะทุกอย่างได้ถูกปรุงมาเรียบร้อยแล้ว

…สารภาพกันตามตรงว่าผมเสพติดเมนูนี้มาก มีอยู่เดือนนึงที่เดินเข้าร้านทุก 3-4 วันเพื่อไปสั่งเมนูนี้ จนตอนนั้นเกิดความคิดชั่วร้ายว่าเราจะไม่รีวิวเมนูนี้ เพราะมันมีจำกัดและจะเก็บไว้กินเอง หึหึหึ …แต่สุดท้ายความอร่อยก็ทำให้คนบอกต่อกันไปเรื่อยๆ อยู่ดี

แซลมอน สเต็ก เป็นอีกเมนูที่ค่อนข้างเกินคาด เนื่องจากร้านทั่วไปมักปรุงออกมาได้แข็งกระด้าง แต่ของไดกงยังมีความนุ่มและเนื้อปลายังเป็นลิ่มๆ ในขณะที่ผิวด้านนอกมีความกรอบเล็กน้อย และแม้ว่าจะมีกลิ่นเนยแต่ก็ไม่เลี่ยนเพราะไม่ได้เอาชิ้นปลาไปปรุงกับเนยโดยตรง แต่เนยอยู่ในส่วนผสมของน้ำซอสที่ราด

ท้องปลาแซลมอนย่างมีหนังกรอบๆ กับเนื้อนุ่มๆ แบบที่ไม่แห้งกระด้างเพราะมีชั้นของมันแทรกอยู่ เมื่อบีบมะนาวลงไปก็ทำให้รสเปรี้ยวเข้าไปเพิ่มมิติของรสชาติได้เป็นอย่างดี ( เพื่อนบอกว่ากินแล้วคิดถึงแอลกอฮอล์ )

เทมปุระ เป็นอีกเมนูที่หาร้านที่ทำอร่อยได้ยาก บางทีก็กรอบกระด้าง บางทีก็ปวกเปียก แต่ไดกงทำออกมาได้ค่อนข้างดีด้วยตัวกุ้งที่เลือกใช้กุ้งสดและตัวแป้งที่กรอบกำลังดี

พักเบรคกันด้วยสลัดไดกงที่อาจเรียกได้ว่าเป็นการยำรวมสรรพสิ่งก็ว่าได้ โดยมีวัถุดิบหลักคือไชเท้า ( ไดกง แปลว่าไชเท้า ) ซึ่งดูดซับน้ำสลัดที่เปรี้ยวๆ หวานๆ ที่โรยด้วยทูน่า และใจกลางภูเขาไชเท้ายังมีปลาดิบรวมหั่นซ่อนอยู่

ยำเนื้อไทยที่ปรุงมาแบบไม่สุกกับน้ำซอสรสเปรี้ยวที่ราดลงบนหอมหัวใหญ่หั่น จัดว่าลงตัวมากๆ และเป็นอีกเมนูที่ผมชอบด้วยความนุ่มของเนื้อ ความเปรี้ยวของซอสที่คลุกเคล้ากับหอมหัวใหญ่ มันทำให้ fresh มากๆ …แต่ถ้าชอบเนื้อที่สุกกว่านี้ก็สามารถแจ้งทางร้านได้ครับ

หรือถ้าไม่ชอบเนื้อ จะเปลี่ยนเป็นยำทูน่า อาบูริก็ได้เช่นกัน ซึ่งมีการปรุงเหมือนกันจะต่างก็แค่ส่วนของเนื้อเท่านั้น …ทั้งสองแบบก็มีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน มีความนุ่มชุ่มฉ่ำคนละแบบ แล้วแต่คนชอบครับ

ข้าวหน้าปลาไหลของที่นี่เกินราคาค่าตัวมากๆ หนึบหนับเต็มปากเต็มคำ ตัวหนังก็มีความกรุบเล็กๆ น้ำซอสรสหวานที่ราดมาก็ไม่ชุ่มจนไปกลบความเป็นปลาไหล นับเป็นอีกจานที่ผมประทับใจครับ

ตบท้ายกันด้วยซารุโซบะที่ทำได้ตามมาตรฐานทั่วไป ด้วยการเสิร์ฟแบบมีน้ำแข็งช่วยรักษาความเย็นของเส้น ประกอบกับน้ำซุปที่ไม่จัดและไม่จืดจนเกินไปก็ทำให้กินได้เพลินครับ

บทสรุปรีวิว ไดกง อาหารญี่ปุ่น

ในภาพรวมแล้วไดกงของพี่ยูทำได้ค่อนข้างประทับใจ ( ถ้าไม่ประทับใจผมก็คงไม่เป็นลูกค้าตั้งแต่ปี 2014 ) และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องราคาก็ขอร่ายยาวตามบิลเลยละกัน

  • ซาซิมิ
    • แซลมอน 190 บาท
    • ทูน่า 250 บาท
    • หอยเชล 250 บาท
  • ซูชิ ( ราคาต่อ 2 ชิ้น )
    • ไข่ปลา เนงิ แซลมอน 180 บาท
    • ไข่ปลาแซลมอน โรล 250 บาท
    • ทูน่า 100 บาท
    • แซลมอน 70 บาท
    • ฮามาจิ 160 บาท
    • หนวดปลาหมึกยักษ์ 70 บาท
    • เอ็นกาวะ 120 บาท
    • เอ็นกาวะ อาบูริ 130 บาท
    • ฟัวกรา 220 บาท
    • แซลมอน อาบูริ 80 บาท
    • ทูน่า สไปซี่ 90 บาท
    • ท้องแซลมอน อาบูริ 199 บาท ( ราคาต่อเส้น แบ่งได้ประมาณ 6 ชิ้น )
  • ไดกงสลัด 180 บาท
  • ยำเนื้อไทย 170 บาท
  • ยำทูน่า อาบูริ 220 บาท
  • ซารุโซบะ 85 บาท
  • ข้าวหน้าปลาไหล 199 บาท
  • กุ้งเทมปุระ 150 บาท
  • แซลมอน สเต็ก 120 บาท
  • ท้องปลาแซลมอนย่าง 220 บาท

ถ้าให้ผมเทียบอย่างง่ายก็คือ ราคาถูกกว่าร้านดังในห้างอย่างฟูจิและโออิชิแต่คุณภาพดีกว่า บางเมนูก็ทำได้ดีใกล้เคียงกับร้านเกรด Premium เลยด้วยซ้ำ ซึ่งต้องบอกว่าหาได้ค่อนข้างยากกับร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ชานเมืองแบบนี้ อย่างข้าวหน้าปลาไหลราคา 199 บาทกับคุณภาพแบบนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ หรืออย่างฮามาจิที่ทำได้ดีกว่าร้านระดับ Kubone ที่ผมชอบแวะกินระหว่างกลับบ้าน หรือฟัวกราที่ผมประทับใจกว่า Aiko หรือ Tenjo หรืออาจบอกได้ว่าฟัวกราของที่นี่ทำได้ใกล้เคียงกับ Takumi เลย

หรือถ้าเทียบกับ Sushi OO ก็ยังถือว่าภาพรวมแล้วที่นี่ทำได้น่าสนใจกว่า ทั้งในแง่ของราคาและคุณภาพ อย่างแซลมอน ซูชิ ที่ราคาประมาณ 70 บาทเท่ากัน แต่ที่นี่ได้ 2 ชิ้นและก็ไม่ได้อัดข้าวมาแน่นจนเกินไปแบบ Sushi OO ด้วย  แต่อย่าจินตนาการว่าจะหรูหราเท่าร้านระดับ Sushi Masa หรือ Honmono เพราะในภาพรวมแล้วยังไม่โดดเด่นขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าและเบียดร้านในห้างหลายๆ ร้านได้เลย

…ทั้งคุณภาพ ราคาและบริการที่ไม่แข็งทื่อ แต่แฝงไปด้วยรอยยิ้มและความอารมณ์ดี ทำให้ร้านไดกงยังคงครองใจผมมาจนถึงทุกวันนี้

Share this post

Bac
ผมจำความได้ว่าตอนเด็กจะเห็นป๊ากินอาหารจืดมาก รวมไปถึงอากงอาม่าที่แทบไม่ปรุงอะไรเลย โดยเน้นความหอมจากวัตถุดิบและกรรมวิธีการทำ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ง่ายนัก และไม่ใช่รสที่หาได้จากร้านทั่วไป เรียกได้ว่าผมไม่ได้เจอรสแบบนี้นานมาก จนกระทั่งได้ลองที่ร้าน Ho Kitchen Rama3 Est.2002 แล้วภาพในอดีตตอนยังเป็นเด็กมันย้อนกลับมา มันทำให้ผมเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวทันทีที่นึกถึงวันที่ผมยังเด็กและอากงอาม่ายังอยู่ครบ …นี่มันไม่ใช่แค่อาหาร แต่มันคือความทรงจำ อาหารจีนที่กินแล้วรู้สึกดี อย่างที่รู้กันว่าคนจีนเป็นชนชาติที่ให้ความสำคัญกับความเชื่อเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะของกินที่มีความหมายดี และต้องเป็นวัตถุดิบที่ผ่านการปรุงอย่างดีเพื่อให้ดีต่อสุขภาพด้วย โดยเซ็ตที่เรามารีวิวในครั้งนี้เหมาะสำหรับ 10 คน ราคา 8,000 บาท หรือหารตกคนละ 800 บาท เมื่อดูที่เมนูและปริมาณ สำหรับผมรู้สึกว่าไม่เสียดายเงินเลยครับ โดยเฉพาะการพาครอบครัวที่เรารักมานั่งโต๊ะพร้อมหน้ากัน ใช้เวลาความสุขร่วมกัน แค่นี้ก็คุ้มแล้ว ก่อนที่จะเข้าเซ็ต 8,000 บาท อยากแนะนำโปรโมชั่นติ่มซำ 2 แถม 1 โดยเมนูที่เราได้ลองคือ ขนมจีบกุ้ง, ขนมจีบปู, ฮะเก๋า, ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งกรอบ, ฟองเต้าหู้กุ้งทอด, ซาลาเปาไส้หมูแดง ซึ่งทุกเมนูให้เนื้อมาเน้นๆ กุ้งเป็นกุ้ง ขนมจีบก็เนื้อแน่นเด้งกินง่ายเต็มปากเต็มคำ ส่วนซาลาเปาไส้หมูแดงก็ให้ไส้มาเยอะ รสชาติเบาๆ ไม่จัด ก๋วยเตี๋ยวหลอดและฟองเต้าหู้ทอด ก็มีความกรุบกรอบเล็กๆ พอให้มีมิติ […]
บังเอิญว่า kabukichō 77 เปิดสาขาใหม่ใกล้ 5 แยกวัชรพล อยู่ตรงข้ามออฟฟิศเราพอดี แบบนี้ไม่ให้ลองก็คงไม่ได้ ร้านนี้มีบุฟเฟต์ 2 ราคาคือ 713 บาท และ 1,189 บาท Net ยกเว้นต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ต้องจ่ายเพิ่ม มีให้เลือก 2 ราคา แพ็คเกจอาหารที่มีให้เลือกคือ 666+ บาท ( 713 บาท ) และ 1,111+ บาท ( 1,189 บาท ) โดยทั้ง 2 ราคาจะรวมเครื่องดื่มและของหวานทั้งหมด ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชุด 666+ จะมีชาบูเนื้อพรีเมี่ยม เนื้อ US เนื้อ AUS รวมถึงสารพัดซาซิมิ และของดองซอสทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น แซลมอนดอง กุ้งดอง ไข่ดอง และยังมีกลุ่มของเทปันยากิน และเมนูปิ้งย่างเสียบไม้ ส่วนชุด […]
ในช่วงที่ไก่ทอดเกาหลีทยอยมาเปิดสาขาในไทย แต่จุดที่ทำให้ Pelicana ดึงดูดทีมงานเราก็เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของไก่ทอดเกาหลีอันโด่งดัง โดดเด่นด้วยซอสราว 10 รสให้เลือก และสิ่งที่ห้ามพลาดคือชีสบอลที่นำเข้า และข้าวมันไก่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อขายในประเทศไทยโดยเฉพาะ หลากหลายเมนูชวนให้ลอง เมนูส่วนใหญ่ของ Pelicana จะเป็นไก่ทอดโดยจุดต่างคือซอสที่แตกต่างกัน เช่น ซอสซิกเนเจอร์, ซอสน้ำผึ้ง, ซอสสโมคกี้ฮอต, ซอสกังจอง, ซอสเผ็ด, ซอสสโมคกี้มาโย, ซอสเผ็ดมาโย, ซอสกระเทียม, ซอสถั่วเหลือง, และโรยผงชีส นอกจากซอสและการปรุงแต่ละแบบแล้ว ยังสามารถเลือกได้อีกว่าจะเอาปีก, ครึ่งตัว, ทั้งตัว ซึ่งถ้าเราสั่งไก่ทอดเราจะได้ไชเท้าดองไม่อั้นด้วย แก้เลี่ยนได้ดีมาก และยังมีของกินเล่นอื่นๆ เช่น ชีสบอล, มันหวานชีสสติ๊ก, แร๊พไก่กรอบ, เบอร์เกอร์ไก่กรอบ และอื่นๆ อีก เราได้ลองไก่กันหลายรสเลยครับ สิ่งที่เราชอบคือแต่ละรสจะมีความแตกต่างกันชัดเจน คาแรกเตอร์เด่น และทุกตัวจะมีความหอมเฉพาะอยู่ เช่น ซอสน้ำผึ้งก็จะหวานๆ กินง่ายๆ, โรยผงชีสก็จะหอมนวล เนื้อนุ่ม แป้งกรอบ ลงตัวมาก แต่ที่อยากแนะนำว่าต้องลองคือไก่ทอดออริจินอลซอสซิกเนเจอร์ เพราะเนื้อสัมผัสมันจะแตกต่างอย่างชัดเจนแบบหาจากร้านอื่นไม่ได้ หนังไก่จะไม่ได้ชุบแป้งกรอบหนาเหมือนตัวอื่น แต่มีความกรอบนอกนุ่มใน ถ้าอยากได้อะไรที่แปลกกว่าไก่ทอด แต่อยากกินไก่ทอด […]